Hair transplant
เทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อสร้างเส้นผมใหม่
1.) การปลูกผมแบบมาตรฐาน : FUT – Follicular Unit Transplantation
2.) การปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด : FUE – Follicular Unit Extraction
3.) การลดผมร่วงและกระตุ้นผมเกิดใหม่จากเกล็ดเลือดความเข้มข้นสูง : PRP – Platelet Rich Plasma
2.) การปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด : FUE – Follicular Unit Extraction
3.) การลดผมร่วงและกระตุ้นผมเกิดใหม่จากเกล็ดเลือดความเข้มข้นสูง : PRP – Platelet Rich Plasma
วิธีที่นิยมในการปลูกผมมีด้วยกัน 2 วิธีคือ
1.) Follicular Unit Transplantation – FUT โดยศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญด้านผม Board-Certified Plastic Surgeon
2.) Follicular Unit Extraction – FUE
Follicular Unit Transplantation (FUT) หรือ หรือ Strip Technique เป็น การปลูกผมด้วยวิธีดั้งเดิม ซึ่งต้องได้รับการผ่าตัด และเป็นวิธีที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในการปลูกผมมาเป็นเวลายาวนาน
หลักการ FUT นั้นเปรียบเสมือนการย้ายต้นไม้จากกระถางหนึ่งไปปลูกอีกหลายๆกระถาง โดยทุกต้นที่นำมาเพาะต้องมีรากที่สมบูรณ์เพียงพอ ที่จะพัฒนาเจริญเติบโตต่อไป เทคนิคที่สำคัญคือต้องระวังไม่ให้เซลล์ผมถูกตัดขาด หรือบอบช้ำในระหว่างการย้าย มิฉะนั้นผลการปลูกผมจะไม่สมบูรณ์แบบ วิธีแบบผ่าตัด FUT เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะล้าน ผมบางค่อนข้างมาก หรือแพทย์ได้ทำการประเมินแล้วว่าต้องทำการปลูกถ่ายเส้นผมมากกว่าจำนวน 2,000 กราฟขึ้นไป เป็นต้น
2.) Follicular Unit Extraction – FUE
Follicular Unit Transplantation (FUT) หรือ หรือ Strip Technique เป็น การปลูกผมด้วยวิธีดั้งเดิม ซึ่งต้องได้รับการผ่าตัด และเป็นวิธีที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในการปลูกผมมาเป็นเวลายาวนาน
หลักการ FUT นั้นเปรียบเสมือนการย้ายต้นไม้จากกระถางหนึ่งไปปลูกอีกหลายๆกระถาง โดยทุกต้นที่นำมาเพาะต้องมีรากที่สมบูรณ์เพียงพอ ที่จะพัฒนาเจริญเติบโตต่อไป เทคนิคที่สำคัญคือต้องระวังไม่ให้เซลล์ผมถูกตัดขาด หรือบอบช้ำในระหว่างการย้าย มิฉะนั้นผลการปลูกผมจะไม่สมบูรณ์แบบ วิธีแบบผ่าตัด FUT เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะล้าน ผมบางค่อนข้างมาก หรือแพทย์ได้ทำการประเมินแล้วว่าต้องทำการปลูกถ่ายเส้นผมมากกว่าจำนวน 2,000 กราฟขึ้นไป เป็นต้น
ข้อดีของการปลูกผมแบบ FUT ที่เมริษาคลินิก คือ
1. การผ่าตัดนำเซลล์รากผมออกมาจากบริเวณท้ายทอย ซึ่งเป็นบริเวณที่ปราศจากผลกระทบของฮอร์โมน DHT ที่ทำให้ผมร่วง ทำ
โดยศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญด้านผม (Board-Certified Plastic Surgeon) มีการเย็บแผลซ้อน 2 ชั้น และปิดแผลด้วยวิธี
Trichophytic closure ซึ่งทำให้เส้นผมงอกออกมาจากแผล และดูไม่ออกว่ามีรอยแผล
2. การปลูกผมได้ประสิทธิภาพสูง อัตราติดสูงถึง 95% เนื่องจากเซลล์รากผมที่นำมากอผมมีความสมบูรณ์มาก
3. การรักษาสามารถทำได้เพียงครั้งเดียว ไม่จำเป็นต้องเข้ามาทำการปลูกซ้ำ
โดยศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญด้านผม (Board-Certified Plastic Surgeon) มีการเย็บแผลซ้อน 2 ชั้น และปิดแผลด้วยวิธี
Trichophytic closure ซึ่งทำให้เส้นผมงอกออกมาจากแผล และดูไม่ออกว่ามีรอยแผล
2. การปลูกผมได้ประสิทธิภาพสูง อัตราติดสูงถึง 95% เนื่องจากเซลล์รากผมที่นำมากอผมมีความสมบูรณ์มาก
3. การรักษาสามารถทำได้เพียงครั้งเดียว ไม่จำเป็นต้องเข้ามาทำการปลูกซ้ำ
Follicular Unit Extraction (FUE)
ในปัจจุบันการปลูกผมได้รับการพัฒนามาเป็นเทคนิคการปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยเจาะเอาเซลล์รากผมออกมา แล้วฝังลงใน
บริเวณที่ต้องการ เทคนิคนี้กำลังเป็นที่กล่าวถึงและนิยมมากขึ้น อาจเนื่องจากไม่มีแผลเย็บ และเหมาะกับคนไข้ที่กลัวการผ่าตัด เทคนิคการเจาะรากผมออกมาปลูกจึงตอบโจทย์ได้ดี
เครื่องมือที่ใช้นำเซลล์รากผมออกมานั้นมีขนาดเล็กมาก เพียง 0.85-1mm เท่านั้น นับว่ามีความละเอียดสูง ขนาดแผลเล็ก และปลอดภัย
บริเวณที่ต้องการ เทคนิคนี้กำลังเป็นที่กล่าวถึงและนิยมมากขึ้น อาจเนื่องจากไม่มีแผลเย็บ และเหมาะกับคนไข้ที่กลัวการผ่าตัด เทคนิคการเจาะรากผมออกมาปลูกจึงตอบโจทย์ได้ดี
เครื่องมือที่ใช้นำเซลล์รากผมออกมานั้นมีขนาดเล็กมาก เพียง 0.85-1mm เท่านั้น นับว่ามีความละเอียดสูง ขนาดแผลเล็ก และปลอดภัย
PRP (Platelet Rich Plasma) เป็นเทคนิคที่กระตุ้นการสร้างใหม่ของรากผม และแขนงเส้นเลือดใหม่รอบๆรากผม
Platelet (เกล็ดเลือด) คือส่วนประกอบของเลือดที่ทำงานเพื่อปลดปล่อย Growth Factor
นานาชนิด และเกิดการสร้าง stem cell อันจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการ
เกล็ดเลือด (Platelet) มีหน้าที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว ดังที่เราเห็นว่าเมื่อมีบาดแผลเกิดขึ้น
เกล็ดเลือดจะไปที่แผลเป็นอย่างแรก จากนั้นจะส่งสัญญาณเรียกเซลล์อื่นๆเข้ามา รวม
ทั้ง stem cell ไปซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อใหม่
ดังนั้นในทางการแพทย์ศัลยกรรมความงามจึงได้ใช้ PRP (Platelet Rich Plasma)
เทคนิคที่สกัดเกล็ดเลือดให้ได้ความเข้มข้นสูง นำเข้าสูงจุดที่ต้องการรักษา เพื่อกระตุ้น
การสร้างผมใหม่ ทำให้ผิวพรรณอ่อนวัยลง รักษาอาการบาดเจ็บของข้อต่อ เป็นต้น
นานาชนิด และเกิดการสร้าง stem cell อันจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการ
เกล็ดเลือด (Platelet) มีหน้าที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว ดังที่เราเห็นว่าเมื่อมีบาดแผลเกิดขึ้น
เกล็ดเลือดจะไปที่แผลเป็นอย่างแรก จากนั้นจะส่งสัญญาณเรียกเซลล์อื่นๆเข้ามา รวม
ทั้ง stem cell ไปซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อใหม่
ดังนั้นในทางการแพทย์ศัลยกรรมความงามจึงได้ใช้ PRP (Platelet Rich Plasma)
เทคนิคที่สกัดเกล็ดเลือดให้ได้ความเข้มข้นสูง นำเข้าสูงจุดที่ต้องการรักษา เพื่อกระตุ้น
การสร้างผมใหม่ ทำให้ผิวพรรณอ่อนวัยลง รักษาอาการบาดเจ็บของข้อต่อ เป็นต้น
ข้อได้เปรียบของ PRP
– เป็นเลือดของผู้รับการรักษาเอง จึงปราศจากการนำพาโรคต่างๆ รวมทั้งโอกาสแพ้
– กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่
– ทำให้เกิดการโครงสร้างเส้นเลือดใหม่ (Angiogenesis) ทำให้แผลสมานเร็ว รวมทั้งเพิ่มจำนวนเส้นผมเกิดใหม่ระยะอานาเจน
– กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่
– ทำให้เกิดการโครงสร้างเส้นเลือดใหม่ (Angiogenesis) ทำให้แผลสมานเร็ว รวมทั้งเพิ่มจำนวนเส้นผมเกิดใหม่ระยะอานาเจน
PRP (Platelet Rich Plasma) ในบริเวณที่ต้องการ จะทำหน้าที่ปล่อย Growth Factor นานาชนิด อาทิ PDGF, FGF, EGF, VEGF, TGF เป็นต้น ซึ่งจะทำงานให้สเต็มเซลล์รอบรากผมทำงานและกระตุ้นการเกิดของรากผมใหม่ๆ สร้าง โครงสร้างเส้นเลือดใหม่รอบๆรากผม รวมทั้งลดภาวะการขาดแคลนเลือดหล่อเลี้ยง
ผลประโยชน์ของ PRP ในการกระตุ้นการสร้างผมใหม่ (1)
– เพิ่มความหนาแน่นรวมของเส้นผม
– เพิ่มความหนาของชั้นหนังแท้ และตาข่ายเส้นเลือดใต้ผิวบริเวณที่ฉีด PRP เพิ่มพื้นที่รองรับจำนวนรากผมใหม่ใน 2 สัปดาห์
– เพิ่มจำนวนรากผม และเซลล์คีราติโนไซต์ ที่ผลิตเคราติน หรือเส้นผมนั่นเอง ใน 2 สัปดาห์
– เพิ่มแขนงเส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงรากผม
(อ้างอิงงานวิจัย (1))
– เพิ่มความหนาของชั้นหนังแท้ และตาข่ายเส้นเลือดใต้ผิวบริเวณที่ฉีด PRP เพิ่มพื้นที่รองรับจำนวนรากผมใหม่ใน 2 สัปดาห์
– เพิ่มจำนวนรากผม และเซลล์คีราติโนไซต์ ที่ผลิตเคราติน หรือเส้นผมนั่นเอง ใน 2 สัปดาห์
– เพิ่มแขนงเส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงรากผม
(อ้างอิงงานวิจัย (1))
ปลูกผมแบบ FUT (Strip Technique)
ปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด FUE
ปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด FUE
ปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด FUE
ปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด FUE
ปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด FUE
ปลูกเคราแบบ FUE
ปลูกผม ไม่ต้องผ่าตัดด้วยกรรมวิธี PRP